เศรษฐกิจดี

ทำกรุงเทพฯ ให้ถูกลง สร้างโอกาส สร้างรายได้ ขยายศักยภาพเศรษฐกิจเมือง

ข้อมูลเชิงพื้นที่ (GIS Data) ข้อมูลประกอบตัวชี้วัดพัฒนาเมือง

โครงการฯ

0

0
เทียบสัดส่วนโครงการฯ
0 %

งบประมาณที่ได้รับจัดสรรฯ

0

งบฯ ปีก่อน
0

งบประมาณที่ใช้ไปแล้ว

0

10 %
เทียบสัดส่วนฯ
0 %

รายงานข้อมูลฯ เดือนนี้

0

0
เทียบสัดส่วนฯ (เดือนก่อน)
0 %

ดำเนินการแล้วเสร็จ

0

0 %

กำลังดำเนินการ

0

0 %

ชะลอ+ยกเลิก

0

0 %

ยังไม่มีการรายงาน

0

0 %
ข้อมูลโครงการ/กิจกรรม
มิติ HOST โครงการ/กิจกรรม ค่าเป้าหมาย ผลงาน หน่วยนับ % คืบหน้า งบประมาณ
  • 003 : เพิ่มรถเมล์สายหลักและรอง ราคาถูกราคาเดียว 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :รถเมล์ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้นทั้งสายหลักและสายรอง โดยมี กทม.เป็นผู้ดำเนินการ - ส่วนลดหรือไม่เสียค่าแรกเข้าเพิ่ม หากเชื่อมต่อ BRT และรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีทอง - รถเมล์ใหม่ ชานต่ำ ปรับอากาศ ควันไม่ดำ - มี GPS เช็กตำแหน่งรถได้

    3.กทม.จะทำอย่างไร :เพิ่ม / ปรับเส้นทางวิ่งรถสาธารณะ 1. พัฒนารถเมล์สายรอง feeder เชื่อมต่อระบบหลัก โดยเริ่มจากเส้นทางที่เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้าสายสีทองและ BRT ส่วนเส้นทางที่มีผู้ประกอบการเดิมจะพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเดิมก่อน 2. พัฒนาการเดินรถในเส้นทางหลัก (Main Line/Trunk) สำหรับส่วนที่ยังไม่มีการเดินรถ 3. พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทางระดับย่านให้เส้นทางครอบคลุมยิ่งขึ้น 4. พิจารณาเส้นทางจากโครงการปฏิรูปรถเมล์ 269 เส้นทาง 5. พิจารณา “รถเมล์ Event” รถเมล์เฉพาะกิจที่ให้บริการเฉพาะเวลามี Event หรือมีกิจกรรมขนาดใหญ่ เพื่อพาคนเดินทางกลับบ้านหลังงานเลิกอย่างสะดวก พาประชาชนไปเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะหลัก หรือการกระจายคนออกไปจุดต่าง ๆ ลดการกระจุกตัวอยู่หน้าสถานที่จัดงาน ลดการจราจรติดขัด ลดค่าใช้จ่าย 1. ตั้งเป้าค่ารถเมล์ กทม. 10 บาท ตลอดสาย เด็กนักเรียน ผู้สูงอายุ คนพิการ และนักบวชฟรี 2. พัฒนาระบบรถเมล์ที่ใช้ e-ticket สามารถเปลี่ยนรถเมล์ของ กทม.ได้ในเวลาที่กำหนด โดยไม่เสียค่าโดยสารเพิ่ม 3. ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถเมล์ที่บริหารจัดการโดย กทม.และต่อด้วยระบบหลักที่ กทม.เป็นเจ้าของ ไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าเพิ่ม เพิ่มความสะดวก 1. รถชานต่ำ Universal Design รถปรับอากาศ ใช้พลังงานไฟฟ้า 2. รถขนาดเหมาะสมกับพื้นที่และเส้นทาง หากเป็น feeder ตรอกซอกซอย ขนาดรถต้องไม่เกิน 6 - 7 เมตร 3. เปิดสัญญาณ GPS เป็น open data เพื่อให้ประชาชนวางแผนการเดินทางจากได้แอพพลิเคชั่น เบื้องต้นจะพิจารณาประสานความร่วมมือกับ Google Map เพื่อนำข้อมูลไปเผยแพร่ 4. พิจารณาเปิดระบบการประเมินคุณภาพการให้บริการทั้งตัวรถการให้บริการและผู้ขับขี่ 5. พัฒนาระบบชำระเงินที่สามารถชำระได้หลากหลายรูปแบบ 6. ไม่ติดโฆษณาทับกระจกติดแค่บริเวณตัวถัง เพื่อไม่บดบังทิวทัศน์ของผู้โดยสาร

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :จำนวนเส้นทาง Feeder (Shuttle Bus)...........เส้น ๑.รถเมล์ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้นทั้งสายหลักและสายรอง โดยมี กทม.เป็นผู้ดำเนินการ ๒.ส่วนลดหรือไม่เสียค่าแรกเข้าเพิ่ม หากเชื่อมต่อ BRT และรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีทอง ๓.รถเมล์ใหม่ ชานต่ำ ปรับอากาศ ควันไม่ดำ ๔.มี GPS เช็กตำแหน่งรถได้

    5.เป้าหมาย :เส้นทาง : 15

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 029 : อาสาสมัครเทคโนโลยี (อสท.) ตัวช่วยด้านเทคโนโลยีสำหรับคนกรุงเทพฯ 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สพส. // หน่วยงานสนับสนุน สนข.

    2.ประชาชนได้อะไร :- เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับการประกอบธุรกิจของรายย่อยในชุมชน - เพิ่มตัวเลือกให้กับผู้บริโภค และได้สนับสนุนผู้ค้ารายย่อย - สร้างงาน สร้างโอกาส สำหรับแรงงานและผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ

    3.กทม.จะทำอย่างไร :ในปัจจุบันองค์ความรู้เกี่ยวกับดิจิทัลเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตในมิติต่าง ๆ เช่น - การรักษาสิทธิและผลประโยชน์จากรัฐ เช่น การลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง การลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน - การประกอบธุรกิจและขยายโอกาสทางธุรกิจ เช่น การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ปัญหาเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจและการเข้าถึงเทคโนโลยีเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย และ ประชาชนผู้สูงอายุ ซึ่งผู้สูงอายุที่อายุเกิน 60 ปี ในกรุงเทพฯ มีประมาณมากกว่า 1.1 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของประชากรกรุงเทพฯ ทั้งหมด [1] ดังนั้น กทม.จะพัฒนาเครือข่ายคนรุ่นใหม่ให้เป็นอาสาสมัครเทคโนโลยี (อสท.) เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางด้านดิจิทัลของประชาชน เช่น - การช่วยเหลือประชาชน และ ผู้สูงอายุในการลงทะเบียนรักษาสิทธิต่าง ๆ ของรัฐ - การช่วยพ่อค้าหาบเร่แผงลอยในการเข้าถึงตลาดออนไลน์ - การช่วยคนขับรถในการเข้าถึงแพลตฟอร์มรับงานขับรถออนไลน์ - การช่วยแรงงานฝีมือในชุมชนเข้าถึงแพลตฟอร์มหางาน และการเก็บข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ - การเก็บข้อมูลผู้ป่วยติดเตียงในชุมชน - ช่วยเหลือคนในชุมชน (โดยเฉพาะผู้สูงอายุ) ในการใช้บริการ Telemedicine - การช่วยเหลือคนพิการลงทะเบียนบัตรคนพิการ ให้ลดการตกหล่นของคนพิการที่เข้าไม่ถึง รวมถึงการเข้าถึงสิทธิของคนพิการที่มักจะต้องมีบัตรคนพิการในการยืนยันตัวตน

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :สร้างหลักสูตรที่เหมาะสมสำหรับการอบรมอาสาสมัครเทคโนโลยีสำหรับคนกรุงเทพฯ

    5.เป้าหมาย :หลักสูตร : 1

    6.Action Plan :1. อยู่ระหว่างการขอจัดสรรงบประมาณ เพื่อจัดทำโครงการจ้างเหมาบริการอาสาสมัครเทคโนโลยี (อสท.) 2. ศึกษา รวบรวม และพัฒนาหลักสูตร Digital Skill ที่เหมาะสม

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 030 : ออกแบบเรื่องราวให้เมือง ผ่าน digital experience economy 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สพส. // หน่วยงานสนับสนุน สปส., สวท., สกต., สนข.

    2.ประชาชนได้อะไร :- ผู้ประกอบการในพื้นที่มีรายได้มากขึ้นจากการขยายโอกาสทางการค้าและกลุ่มลูกค้า - ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวมีโอกาสเข้าถึงสินค้าและการบริการที่หลากหลายมากขึ้น

    3.กทม.จะทำอย่างไร :จากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวลดลง ส่งผลให้กิจการโดยเฉพาะการขายประสบการณ์และวัฒนธรรมในเชิงกายภาพ (physical experience) ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ดังนั้นเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบให้สามารถกลับมามียอดขายและเติบโตได้ในช่วงวิกฤต กทม.จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการสร้างเศรษฐกิจและการค้าผ่านการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้า (digital experience economy) เช่น การเพิ่มการสอนเวิร์กช็อปออนไลน์ (เช่น เตรียมอุปกรณ์วัตถุดิบส่งไปให้ลูกค้าก่อน แล้วจัดการสอนออนไลน์) และการจัดทำดิจิทัลคอนเทนต์ช่วยโปรโมตกิจกรรมผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การโฆษณาออนไลน์ การชูกิจกรรมเหล่านี้ให้กับลูกค้าได้เห็นผ่านเครื่องมือทางซอฟต์พาวเวอร์ เช่น ละคร ซีรีส์ หนัง ดนตรี โดยการสอนนี้จะเป็นการสร้าง digital experience economy ให้กับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานฝีมือและงานประดิษฐ์ได้ โดย กทม.จะเข้าไปช่วยผู้ประกอบการ ตั้งแต่การออกแบบกิจกรรม ไปจนถึงการประสานงานกับเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเนื้อหาออนไลน์และการจัดส่งสินค้า (อ้างอิงเนื้อหา digital experience economy จากแนวคิดของ คุณสันติธาร เสถียรไทย)

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :จำนวนกิจกรรมที่ส่งเสริมผู้ประกอบการด้านดิจิทัล

    5.เป้าหมาย :กิจกรรม : 2

    6.Action Plan :จัดกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการเพื่อยกระดับสู่ผู้ผลิตสินค้าเชิงนวัตกรรม โดยพัฒนาศักยภาพในเชิงธุรกิจดิจิทัลและพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 036 : ดึงอัตลักษณ์ สร้างเศรษฐกิจ 50 ย่านทั่วกรุงเทพฯ 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :- ได้มีส่วนร่วมกับย่านต่าง ๆ ตลอดทั้งปี ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน - ผู้บริโภคเข้าถึงสิ่งใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มตัวเลือกในการจับจ่ายใช้สอย - ผู้ประกอบการได้โอกาสเพิ่มช่องทางหารายได้ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ

    3.กทม.จะทำอย่างไร :- กทม. จะส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านกายภาพ (hard infrastructure) เช่น พัฒนาการเชื่อมต่อของย่านให้เข้าถึงได้ง่าย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมองค์ความรู้ ข้อบัญญัติที่เกี่ยวข้อง การประชาสัมพันธ์ ฯลฯ (soft infrastructure) - ตั้งต้นจากต้นทุนเดิมที่แต่ละละแวกมี เพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของย่าน เช่น การสนับสนุนรวมกลุ่มของผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ การช่วยประสานงานกับสถาบันทางการเงินเพื่อหาสินเชื่อต้นทุนต่ำ ช่วยส่งเสริมการจัดการกิจกรรมเพื่อดึงดูดลูกค้าและนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้จ่ายที่ย่าน (เช่น การจัด one day trip การจัดถนนคนเดิน) และการเสริมกิจกรรมจนกลายเป็น ‘ย่าน’ ที่แข็งแรง ดึงดูดผู้คนเข้ามาและเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ แนวทางการพัฒนา ได้แก่ -ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy District) -ย่านธุรกิจ-เศรษฐกิจการค้า -ย่านรับจ้างผลิต OEM (Original Equipment Manufacturer) -ย่านสตรีทฟู้ด -ย่านที่เป็น Node สำคัญ -ย่านนวัตกรรม

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :จำนวนย่านที่ได้รับการพัฒนาให้มีอัตลักษณ์ทั้ง กทม.

    5.เป้าหมาย :ย่าน : 20

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 038 : ส่งเสริมให้ผู้ค้าแผงลอยมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :- ได้โอกาสสำหรับหาบเร่ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน พื้นที่ และการบริหารจัดการที่มั่งคง

    3.กทม.จะทำอย่างไร :หาบเร่แผงลอยเป็นกลไกที่สำคัญในเชิงเศรษฐกิจต่อคนกรุงเทพฯ ทั้งในแง่การเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจฐานรากและการเป็นแหล่งอาหารราคาประหยัดเพื่อลดค่าครองชีพให้กับคนเมือง (อ้างอิงจากกิจกรรม ‘ชัชชาติชวนคิด’ ที่สอบถามความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับมุมมองที่มีต่อหาบเร่แผงลอย [1]) ดังนั้น เพื่อพัฒนาให้ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยมั่นคงขึ้น สามารถต้านทานสภาวะทางเศรษฐกิจที่ผันผวนสูงได้ กทม.จะสนับสนุนให้ผู้ค้ามีความมั่นคงในการค้า (social mobility) ผ่านการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ตั้งแต่ 1. การจัดหาเงินทุน - กทม.ประสานข้อมูลการค้า ข้อมูลการดำเนินการในอดีต และขีดความสามารถในการทำการค้าของผู้ค้าให้กับสถาบันทางการเงินของรัฐและเอกชนเพื่อจัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ลดต้นทุนในการทำธุรกิจ 2. การบริหารจัดการ - กทม.ประสานงานกับ อสท. (อาสาเทคโนโลยี) ประจำชุมชนให้ช่วยเหลือในด้านการบริหารจัดการภายในร้านค้า (เช่น จัดการสินค้าคงคลัง การจัดการรายรับ-รายจ่าย) ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยในการควบคุม 3. การจัดหาพื้นที่ - กทม.ประสานงานกับเอกชนและภาครัฐในพื้นที่เพื่อจัดหาพื้นที่เช่าราคาประหยัดสำหรับผู้ค้าที่ต้องการพื้นที่ทำการค้าถาวร

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :จำนวนแนวทางการส่งเสริมให้ผู้ค้าแผงลอยมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ

    5.เป้าหมาย :แนวทาง : 1

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 039 : สร้างการมีส่วนร่วมของผู้ค้าแผงลอย ภาคประชาชน และเอกชนในพื้นที่ ช่วยดูแลพื้นที่การค้า 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :- ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดรูปแบบของการทำพื้นที่การค้าขายหาบเร่ในเขตที่อยู่อาศัยและใช้ชีวิต - ได้หาบเร่แผงลอยที่สวยงามสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของพื้นที่

    3.กทม.จะทำอย่างไร :กทม.จะพัฒนาการมีส่วนร่วมของของภาคประชาชน ทั้งผู้ค้าและประชาชนในพื้นที่ ดังนี้ 1. พิจารณาปรับเพิ่มสัดส่วนคณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยระดับเขต ในส่วนผู้แทนการค้าและภาคประชาชน ได้แก่ ตัวแทนผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ตัวแทนประชาชนในพื้นที่ และตัวแทนผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อให้แต่ละพื้นที่มีอิสระในการกำหนดลักษณะของแผงค้า หรือจำนวนแผงค้าที่เหมาะสมและเป็นระเบียบเรียบร้อยสำหรับย่าน 2. เพิ่มการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ผ่านการประยุกต์ใช้เครื่องมือเทคโนโลยีออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้การบริหารจัดการพื้นที่สาธารณะสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในย่านนั้นๆ 3. เพิ่มการเผยแพร่ข้อมูลพื้นที่การค้าให้โปร่งใสตั้งแต่วิธีการกำหนดลักษณะของพื้นที่ค้า ไปจนถึงจำนวนและประเภทการค้าในพื้นที่ 4. ร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาลักษณะร้านค้า เช่น ลักษณะสีของร้าน ร่ม ให้สอดคล้องกับที่คณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยระดับเขตกำหนด โดยคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นกำลังสำคัญในการกำหนดหลักการที่เหมาะสมสำหรับการทำการค้าในแต่ละพื้นที่ เช่น ขนาดของทางเท้าที่เหมาะสม (แต่ต้องไม่น้อยกว่าหลักการตามมาตรฐานอารยสถาปัตย์ (universal design)) รูปแบบของการค้าและจำนวนแผงค้า หลักเกณฑ์ในการเข้าร่วม (แต่ต้องมีความเป็นธรรมให้กับทุกคนในพื้นที่)

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :จำนวนพื้นที่ที่ได้ผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการกำหนดรูปแบบการค้า

    5.เป้าหมาย :พื้นที่ : 55

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 040 : ทำฐานข้อมูลผู้ค้าแผงลอยพร้อมติดตามการดำเนินการ 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สนท. // หน่วยงานสนับสนุน สนข.

    2.ประชาชนได้อะไร :ได้เมืองที่มีแหล่งสินค้าและอาหารแผงลอยที่ได้รับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ

    3.กทม.จะทำอย่างไร :กทม.จะทำการขึ้นทะเบียนหาบเร่แผงลอยในพื้นที่ทั้งหมด โดยเก็บข้อมูล เช่น - พิกัดจุดขาย สำหรับการติดตามและดูแลให้ผู้ค้าประกอบกิจการภายในพื้นที่ที่กำหนดไว้ - ข้อมูลผู้ค้าและผู้ช่วยการค้า สำหรับการดูแลอบรมผู้ค้าเพิ่มศักยภาพในการขาย (เช่น การอบรมแนวทางการรักษาความสะอาดของพื้นที่ สุขอนามัยอาหาร) และการป้องกันการสวมสิทธิของผู้ค้าที่ไม่ได้รับอนุญาต - ข้อมูลรายละเอียดสินค้าและบริการที่ทำการจำหน่าย สำหรับการเก็บสถิติและข้อมูลของกทม. เพื่อนำมาพัฒนาโครงการเพื่อส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่ายและลดต้นทุนให้กับผู้ค้า - ข้อมูลการร้องเรียนจากประชาชนและปัญหาจากการลงพื้นที่สุ่มตรวจคุณภาพการให้บริการของหาบเร่แผงลอย สำหรับการประเมินการต่อใบอนุญาตการทำการค้าในพื้นที่

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :จำนวนผู้ค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน

    5.เป้าหมาย :ราย : 3500

    6.Action Plan :1. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระเบียบการค้าหาบเร่ – แผงลอย

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 042 : หาพื้นที่ของเอกชนหรือหน่วยงานราชการที่สามารถจัดเป็นพื้นที่ขายของสำหรับหาบเร่หรือศูนย์อาหาร (hawker center) 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สนท. // หน่วยงานสนับสนุน สนข.

    2.ประชาชนได้อะไร :พื้นที่การค้าสำหรับหาบเร่ที่มีการจัดการอย่างเป็นระบบไม่กีดขวางการสัญจร

    3.กทม.จะทำอย่างไร :กทม.จะเป็นตัวกลางในการร่วมมือกับรัฐและเอกชนในการจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาเป็นศูนย์อาหาร

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :จำนวนพื้นที่ขายของสำหรับหาบเร่หรือศูนย์อาหาร พื้นที่การค้าสำหรับหาบเร่ที่มีการจัดการอย่างเป็นระบบไม่กีดขวางการสัญจร

    5.เป้าหมาย :แห่ง : 125

    6.Action Plan :โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระเบียบการค้า หาบเร่ แผงลอย ไม่ใช้งบประมาณ

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 050 : พยากรณ์ แจ้งเตือน ป้องกันฝุ่น PM2.5 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :- ปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะประชาชนในกลุ่มเปราะบางและประชาชนที่ต้องทำงานกลางแจ้ง - รับรู้ถึงสถานการณ์ฝุ่นได้อย่างสะดวกไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรอยู่ - รับข้อมูลการพยากรณ์ฝุ่นที่แม่นยำในระดับชั่วโมงและระดับพื้นที่

    3.กทม.จะทำอย่างไร :กทม. จะต้องดำเนินการเรื่องฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่พยากรณ์ แจ้งเตือน และป้องกัน

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :

    5.เป้าหมาย :ร้อยละ : 100

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 116 : 12 เทศกาลตลอดปีทั่วกรุงเทพฯ 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :- คนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่นหรือต่างประเทศมีเทศกาลน่าสนใจตลอดทั้งปีให้เข้าร่วม - ธุรกิจได้โอกาสในการกระตุ้นยอดขายจากงานเทศกาล เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ

    3.กทม.จะทำอย่างไร :การจัดเทศกาลคือการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นในรูปแบบหนึ่งและเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เป็นการเปิดโอกาสประกอบธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับคนกรุงเทพฯ โดยเทศกาลสามารถเป็นเครื่องมือผลักดันความสร้างสรรค์ การออกแบบ ชุมชน รวมถึงเพิ่มเทศกาลที่น่าท่องเที่ยวให้กับคนกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย แต่ละเทศกาลจะดึงอัตลักษณ์และศักยภาพของแต่ละย่านทั่วกรุงออกมาเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของย่านในกรุงเทพฯ สามารถคัดสรร จัดกลุ่ม สร้างเรื่องราว เพื่อพัฒนากิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตลอดปี นอกจากนี้ยังมุ่งหวังให้ให้เกิดการท่องเที่ยวภายในย่านหลังจากจัดเทศกาลอีกด้วย

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :สวท. (H) ดำเนินการจัดกิจกรรม สนับสนุน หรือประสานงานรวมทั้งการประชาสัมพันธ์และรายงานผลการดำเนินการจัดเทศกาลหรือเทศกาลอื่นตามความเหมาะสม ดังนี้ ตุลาคม 2565 เทศกาลกีฬากรุงเทพฯ (กีฬาไทย) พฤศจิกายน 2565 เทศกาลศิลปะสร้างสรรค์ ธันวาคม 2565 เทศกาลแสงสี มกราคม 2566 เทศกาลดนตรี กุมภาพันธ์ 2566 เทศกาลงานออกแบบ และงานคราฟท์ มีนาคม 2566 เทศกาลการอ่านและการเรียนรู้ เมษายน 2566 เทศกาลไทยไทย พฤษภาคม 2566 เทศกาลอาหาร มิถุนายน 2566 เทศกาลแห่งความหลากหลายทางเพศ กรกฎาคม 2566 เทศกาลเด็กและเยาวชน สิงหาคม 2566 เทศกาลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กันยายน 2566เทศกาล E-Sport

    5.เป้าหมาย :เทศกาล : 12

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 118 : กรุงเทพฯ มั่นใจ ปลอดภัยโควิด 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :- คนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวมั่นใจได้ว่า กทม.มีมาตรการจัดการโควิดที่ดี ลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาด - ภาคธุรกิจได้ความมั่นใจและความเชื่อมั่นกลับมา ไม่ต้องกังวลกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด 19

    3.กทม.จะทำอย่างไร :กทม.จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามายังพื้นที่กรุงเทพฯ ผ่านศักยภาพในการตรวจ คัดกรอง และติดตามกลุ่มเสี่ยง นอกจากนี้ กทม.จะส่งเสริมให้ภาคธุรกิจตรวจ ATK ให้กับทั้งพนักงานและลูกค้า พร้อมกับนำผลการตรวจขึ้นแสดงบนแอพพลิเคชั่นและส่งให้กับ กทม.เพื่อเก็บสถิติและควบคุมการระบาดในกรณีที่พบผู้ติดเชื้อ

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :อัตราป่วยตายด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด 19) ไม่เกินร้อยละ 0.1

    5.เป้าหมาย :ร้อยละ : 1

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 121 : จัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ กทม. (กรอ. กทม.) 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สนค. // หน่วยงานสนับสนุน -

    2.ประชาชนได้อะไร :ภาคเอกชนมีส่วนร่วมกับภาครัฐในการจัดทำนโยบายด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจในกรุงเทพฯ เศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นจะส่งผลดีกับคุณภาพชีวิตของประชาชน

    3.กทม.จะทำอย่างไร :กทม.จะพัฒนาโครงสร้างคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ กทม. (กรอ. กทม.)

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :ร้อยละความสำเร็จของการจัดตั้งคณะกรรมการฯ

    5.เป้าหมาย :ร้อยละ : 100

    6.Action Plan :ได้จัดทำหนังสือขอเชิญร่วมเป็นคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนของกทม. ไปยังประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 122 : ฝึกอาชีพพัฒนาทักษะยุคใหม่ตอบโจทย์ตลาดงาน 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :แรงงานเข้าถึงงานได้มากขึ้น และผู้ประกอบการต่าง ๆ ก็เข้าถึงตลาดแรงงานได้ง่ายขึ้นเช่นกัน แรงงานได้พัฒนาทักษะยุคใหม่สำหรับการทำงาน นายจ้างได้แรงงานที่มีคุณภาพ มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ

    3.กทม.จะทำอย่างไร :กทม.มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะอาชีพของประชาชนผ่าน - ศูนย์ฝึกอาชีพ 17 แห่ง หลักสูตรมุ่งเน้นการประกอบวิชาชีพ (เช่น ตัดผม ทำอาหาร ตัดเย็บเสื้อผ้า) ซึ่งเป็นหลักสูตรดั้งเดิมสอนมายาวนานและยังได้รับความนิยมจากประชาชน - โรงเรียนฝึกอาชีพ 10 แห่ง มีหลักสูตรที่เปิดสอนมากกว่า 200 หลักสูตร [1] เนื้อหาหลากหลายแตกต่างกันไปในแต่ละโรงเรียน โดยมีหลักสูตรครอบคลุม เช่น งานช่าง ช่างรถยนต์​ ช่างเครื่องไฟฟ้า ช่างระบบในอาคาร งานคหกรรม อาหารไทย อาหารนานาชาติ งานภาษา เกาหลี จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น อย่างไรก็ดีความต้องการของภาคธุรกิจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ควรนำมาออกแบบหลักสูตรเพื่อให้นักเรียนที่ผ่านการอบรมเป็นที่ต้องการของตลาด มีงาน และมีรายได้ โดยเมื่อสืบค้นข้อมูลกลับไปอย่างน้อยถึงปี 2549 พบว่าหลักสูตรวิชาส่วนใหญ่ยังคงเป็นวิชาเดิม ดังนั้น กทม.จะเพิ่มทางเลือกให้กับการศึกษาผ่านโรงเรียนและศูนย์ฝึกอาชีพ กทม. ทั้งการสนับสนุนการพัฒนาทักษะอาชีพที่ทำอยู่ในปัจจุบันเพื่อรองรับการประกอบอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม และการสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรเข้าสู่ระบบแรงงานเอกชนโดยการพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เช่น e-Commerce (ผ่านการสำรวจความต้องการจากเอกชนในพื้นที่ หรือการพัฒนาหลักสูตรร่วมกันกับเอกชน) เพื่อเพิ่มโอกาสให้นักเรียนมีงานทำหลังจบจากหลักสูตรแล้ว และ กทม.จะติดตามประสิทธิภาพการทำงานของนักเรียนที่จบการศึกษาเพื่อนำแนวคิดมาปรับปรุงหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง นอกจากการพัฒนาหลักสูตรแล้ว กทม.จะช่วยสนับสนุนให้แรงงานฝีมือภายในกรุงเทพฯ เข้าถึงแพลตฟอร์มการจ้างงานได้ โดยการช่วยเหลือของอาสาสมัครเทคโนโลยี (อสท.) เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการหางานที่เหมาะสม

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :จำนวนหลักสูตรที่ได้รับการปรับปรุง/พัฒนาหลักสูตร ฝึกอาชีพยุคใหม่ตอบโจทย์ตลาดงาน

    5.เป้าหมาย :หลักสูตร : 47

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 123 : ขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการ ผ่านการเชื่อมโยงเศรษฐกิจภายในกรุงเทพฯ 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :- ผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ ได้โอกาสในการเข้าถึงพื้นที่จำหน่ายสินค้าของตนเองมากขึ้น - ได้เศรษฐกิจที่หมุนเวียนเม็ดเงินกันภายในพื้นที่

    3.กทม.จะทำอย่างไร :ในบางครั้งผู้ประกอบการรายย่อยหรือ SMEs มีข้อจำกัดทางข้อมูลในการเข้าถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในมิติความรู้ความเข้าใจเทคโนโลยี มิติเครือข่ายในการค้า ดังนั้น กทม.จะรวบรวมช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ทั้งในและต่างประเทศ เครือข่ายร้าน กทม.และร้านชุมชน พร้อมกับวิธีการและแนวทางในการเข้าถึงช่องทางเหล่านี้เป็นแค็ตตาล็อกให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ได้เลือกและใช้งาน ซึ่งจะสามารถช่วยต่อยอดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการที่สนใจ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของธุรกิจและเม็ดเงินระหว่างกันภายในเอกชนในพื้นที่กรุงเทพฯ

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :จำนวนผู้ประกอบการที่เข้าถึงช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าภายในและภายนอกประเทศ

    5.เป้าหมาย :ราย : 300

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 128 : วิชาศิลปะนอกห้องเรียน ส่งเสริมความคิด ความสร้างสรรค์ ผ่านแนวร่วมศิลปินทั่วกรุง 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สนศ. // หน่วยงานสนับสนุน สวท., สนข.

    2.ประชาชนได้อะไร :- ได้วิชาศิลปะในโรงเรียนรูปแบบใหม่ผ่านการร่วมมือกับเครือข่ายศิลปิน - สร้างโอกาสให้กับนักเรียนในกรุงเทพฯ ได้ซึมซับงานศิลปะใกล้ตัว

    3.กทม.จะทำอย่างไร :กทม.จะเป็นตัวกลางในการประสานระหว่างเครือข่ายศิลปินในกรุงเทพ และหอศิลป์กรุงเทพฯ ในการร่วมกันพัฒนาวิชาศิลปะให้กับนักเรียนในสังกัด กทม. เพื่อให้วิชาศิลปะมีความน่าสนใจ ช่วยขยายกรอบความคิดสร้างสรรค์และการแสดงออกของนักเรียน นอกจากนี้ กทม.จะช่วยประสานระหว่างโรงเรียนและผู้จัดงานกิจกรรมเชิงศิลปวัฒนธรรมที่ถูกจัดขึ้นในพื้นที่ กทม. โดยเฉพาะที่จัดขึ้นจากนโยบาย เช่น นโยบาย ‘จัดแสดงงานศิลปะกลางแจ้งทุกมุมเมืองเป็นพื้นที่ศิลปะ’ ‘กรุงเทพฯ พื้นที่แห่งดนตรีและศิลปะการแสดง’ และการจัดแสดงงานศิลปะอื่น ๆ ในพื้นที่ของ กทม. หรือ กทม.เป็นผู้ประสานงานเพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสในการชมศิลปะและวัฒนธรรม ซึมซับศิลปะใกล้ตัว (ในกรณีที่โรงเรียนสามารถจัดสรรเวลาที่เหมาะสมในการพานักเรียนออกนอกสถานที่ได้ พิจารณาการใช้เวลาในวิชาศิลปะ วิชาชมรม เพื่อให้กลุ่มนักเรียนที่สนใจได้เข้าถึงศิลปวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้น)

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :

    5.เป้าหมาย :โรงเรียน : 437

    6.Action Plan :1. นิทรรศการแสดงผลงานภายใต้โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 131 : งานศิลป์จากหอศิลป์กรุงเทพฯ สู่พื้นที่สาธารณะทั่วกรุง 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สวท. // หน่วยงานสนับสนุน สสล.

    2.ประชาชนได้อะไร :- ได้ชมผลงานระดับชาติและระดับโลกใกล้บ้าน ไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง

    3.กทม.จะทำอย่างไร :กรุงเทพฯ จะนำผลงานที่เคยจัดแสดงในหอศิลป์กรุงเทพฯ เดินทางออกมาจัดแสดงต่อ ณ สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ขนาดเล็กทุกเขต และพื้นที่สาธารณะต่างๆ ในทุกเขต ขยายโอกาสของศิลปินในการจัดแสดงผลงาน และขยายโอกาสของประชาชนในการชมผลงาน และทำให้กรุงเทพฯ กับศิลปะเป็นเนื้อเดียวกัน

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :ยกเลิกนโยบาย

    5.เป้าหมาย : : 0

    6.Action Plan :นโยบายที่ถูกตัดออก

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 138 : จัดระเบียบสัตว์จร แก้ปัญหาผ่านการจัดการอย่างเป็นระบบ 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :- กรุงเทพฯ จะมีสุนัขและแมวจรลดน้อยลงหลังจากนโยบายทำหมันอย่างจริงจัง หลังจากสัตว์จรจะหมดช่วงอายุขัยตามธรรมชาติ เฉลี่ยประมาณ 10-15 ปี - หน่วยงาน กทม.จะมีศูนย์พักพิงฯ ที่สามารถดำเนินการรองรับสัตว์จรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการดำเนินงานล่าช้าจากการร้องเรียนเหตุในพื้นที่ - คนกรุงเทพฯ สามารถรับเลี้ยงสัตว์ใหม่จากสัตว์จรในศูนย์พักพิงของ กทม. และศูนย์พักพิงเครือข่ายที่ผ่านเกณฑ์และมีความพร้อมที่เหมาะสม โดยมีสัตว์ที่มีสุขภาพดี แข็งแรงไม่มีโรค

    3.กทม.จะทำอย่างไร :1. จัดชุดออกปฏิบัติการทำหมันและฉีดวัคซีนเชิงรุกอย่างมียุทธศาสตร์ 2. เปลี่ยนสุนัขจรเป็นสุนัขชุมชน 3. ปรับปรุงศูนย์พักพิงของ กทม. และกำกับดูแลศูนย์ของเอกชนให้มีมาตรฐาน 4. ส่งสัตว์จรกลับสู่สถานะสัตว์เลี้ยง (Adopt Not Shop)

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :จำนวนครั้ง/เดือนในการออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ผ่าตัดทำหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเชิงรุก (ครอบคลุมพื้นที่เขตที่ได้รับการร้องเรียน กรณีต้องการให้ผ่าตัดทำหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ร้อยละ 80)

    5.เป้าหมาย :ครั้ง : 12

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 176 : เพิ่มจำนวน Excellent Center และยกระดับศูนย์เวชศาสตร์เขตเมือง 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :คนกรุงเทพฯ ได้รับบริการการรักษาโรคขั้นสูงจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ช่วยป้องกันการสูญเสียรุนแรงในชีวิตและสุขภาพร่างกาย

    3.กทม.จะทำอย่างไร :ผลักดันการเพิ่มจำนวนศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ให่้ครอบคลุมกลุ่มโรคคนเมืองยุคใหม่ ตลอดจนครอบคลุมพื้นที่บริการให้ครบทั้ง 6 กลุ่มเขตทั่วกรุงเทพฯ ในโรงพยาบาลภายใต้สังกัด นอกจากนี้ต้องมีการบูรณาการทางวิชาการและงานวิจัย ตลอดจนส่งเสริมให้ศูนย์เวชศาสตร์เขตเมือง คณะแพทยศาสตร์วิชรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ที่อยู่ภายใต้สังกัดกรุงเทพฯ เป็นศูนย์วิจัยการรักษาที่มีความเป็นเลิศทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :

    5.เป้าหมาย :ศูนย์ : 2

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 177 : เพิ่มแก้มลิงธรรมชาติ พื้นที่รับน้ำให้กรุงเทพฯ 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สนน. // หน่วยงานสนับสนุน สนข., สนค.

    2.ประชาชนได้อะไร :- กทม.มีการจัดการน้ำและระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านการบริหารจัดการงบประมาณ และลงทุนในโครงการที่มีความสมเหตุสมผล - กรุงเทพฯ มีจุดน้ำรอระบาย หรือน้ำท่วมขังในเส้นทางการสัญจรและพื้นที่อยู่อาศัยลดน้อยลง จากสาเหตุข้อจำกัดของโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายการบริหารจัดการน้ำ ทั้งขนาดท่อเล็ก คลองตื้นเขิน หรือพื้นที่ต่ำกว่าระดับคลองสายหลักและระดับน้ำทะเล

    3.กทม.จะทำอย่างไร :กทม.ต้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจังในการจัดหาพื้นที่เอกชนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างบึงและทะเลสาบ เช่น บึงฝรั่งและสวนสาธารณะ กทม. ให้เป็นพื้นที่แก้มลิงธรรมชาติ เพื่อรองรับน้ำฝนส่วนเกิน ช่วยหน่วงน้ำในช่วงฤดูมรสุมหรือฝนตกหนักเฉียบพลัน ตลอดจนทำหน้าที่สนับสนุนระบบระบายน้ำทั้งโครงข่ายให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รูปแบบการทำงานคือ เป็นจุดพักน้ำและผ่องถ่ายน้ำในแก้มลิงที่เก็บกักออกจากพื้นที่หลังจากฝนหยุดตก ลดเหตุการณ์น้ำท่วมขังหรือรอการระบายหลายชั่วโมงในเส้นทางสัญจรและพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชน

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :1. กทม.มีการจัดการน้ำและระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านการบริหารจัดการงบประมาณ และลงทุนในโครงการที่มีความสมเหตุสมผล 2. กรุงเทพฯ มีจุดน้ำรอระบาย หรือน้ำท่วมขังในเส้นทางการสัญจรและพื้นที่อยู่อาศัยลดน้อยลง จากสาเหตุข้อจำกัดของโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายการบริหารจัดการน้ำ ทั้งขนาดท่อเล็ก คลองตื้นเขิน หรือพื้นที่ต่ำกว่าระดับคลองสายหลักและระดับน้ำทะเล

    5.เป้าหมาย :แห่ง : 37

    6.Action Plan :1. งานก่อสร้างแก้มลิงวงเวียนบางเขน (ได้รับงบประมาณ ปี 65 เพิ่มเติม = 35,000,000.- บาท) 2. โครงการก่อสร้างแก้มลิงสวนน้ำเสรีไทยช่วงคลองระหัสถึงคลองครุ (ครั้งที่ 2) (อยู่ในร่างข้อบัญญัติ 66 = 45,300,000.-)

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 179 : ทบทวนแผนการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สนน. // หน่วยงานสนับสนุน สนข.บางขุนเทียน, สสล.

    2.ประชาชนได้อะไร :- ลดผลกระทบด้านน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งอย่างเป็นระบบและยั่งยืนในระยะยาว

    3.กทม.จะทำอย่างไร :กทม.จะต้องมีการทบทวนแผนการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งให้ครอบคลุมในประเด็นเชิงสิ่งปลูกสร้าง (แนวกันคลื่น แนวปักไม้ไผ่) และในประเด็นการฟื้นฟูนิเวศวิทยา (การฟื้นฟูป่าชายเลนชายฝั่ง) รวมถึงจัดทำแผนและจัดสรรงบประมาณ เพื่อการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :ลดผลกระทบด้านน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งอย่างเป็นระบบและยั่งยืนในระยะยาว ในปี 2565 จะใช้มาตรการชั่วคราวในการป้องกันแนวกันคลื่นโดยการปักไม้ไผ่ และการฟื้นฟูป่าชายเลนป้องกันการกัดเซาะ และในปี 2566 ได้ของบประมาณดำเนินการโครงการป้องกันและแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร และศูนย์สำรวจและเฝ้าระวังชายฝั่ง

    5.เป้าหมาย :ร้อยละ : 100

    6.Action Plan :1. โครงการป้องกันและแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร และศูนยสำรวจและเฝ้าระวังชายฝั่ง 2. โครงการจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการป้องกันและแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร และศูนยสำรวจและเฝ้าระวังชายฝั่ง

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 183 : เปิดข้อมูลการเดินทางในกรุงเทพฯ ให้เป็นสาธารณะ 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :- เดินทางในกรุงเทพฯ ด้วยขนส่งสาธารณะได้สะดวกยิ่งขึ้นจากข้อมูลที่ชัดเจน เป็นปัจจุบัน ไม่สับสน

    3.กทม.จะทำอย่างไร :ปัจจุบันประชาชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลขนส่งสาธารณะที่เข้าใจง่ายและเป็นระบบได้ เนื่องจากไม่มีการรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ในที่เดียว ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะไม่เป็นปัจจุบัน และยังไม่มีการบันทึกข้อมูลการเดินทางบางประเภท เป็นต้น ปัญหาข้างต้นมาจากหลายสาเหตุ เช่น - หน่วยงานที่กำกับขนส่งสาธารณะมีหลายหน่วยงาน - กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้รถโดยสารสาธารณะทุกประเภทที่จดทะเบียนใหม่หลังปี พ.ศ. 2559 ต้องติด GPS แต่ไม่บังคับใช้กับรถเก่า และไม่บังคับใช้กับรถโดยสารสองแถว อีกทั้งยังไม่ได้มีข้อกำหนดเรื่องการแสดงผลข้อมูล - ขสมก. ที่กำกับดูแลรถโดยสารประจำทางเปิดเผยข้อมูล GPS ให้กับเอกชนที่ทำแอพพลิเคชั่นเพียงรายเดียวเท่านั้น - กทม. โดยฝ่ายข้อมูลและแผนงาน กองสารสนเทศภูมิศาสตร์ สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล ได้จัดทำ ‘ระบบให้บริการแผนที่ร่วม (GIS Common Data)’ ที่แสดงข้อมูลประเด็น จราจรและขนส่งในหลากหลายหมวดหมู่บนเว็บไซต์ แต่ขาดข้อมูลด้านรถโดยสารประจำทาง นอกจากนี้ยังพบว่าข้อมูลบางส่วนไม่เป็นปัจจุบัน เช่น ยังคงมีข้อมูลรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน (ARL) สาย Express ที่ยกเลิกให้บริการตั้งแต่ พ.ศ. 2561 ดังนั้น กทม.จะเป็นเจ้าภาพประสานความร่วมมือขอข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางจากกระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากไม่สามารถดำเนินการได้ กทม.จะร่วมมือกับเอกชนในการพัฒนาระบบเก็บข้อมูลการเดินทาง อาทิ เก็บข้อมูลขนส่งสาธารณะจากกล้อง CCTV และเปิดเผยต่อสาธารณะ ในรูปแบบของ API เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลการเดินทางได้ โดยในเบื้องต้นมีแผนประสานความร่วมมือเชื่อมต่อกับ Google Map โดยครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ และพื้นที่ต่อเนื่อง ทั้งระบบรถ จักรยานยนต์ จักรยาน ราง เรือ ทางข้าม และพร้อมรองรับเพิ่มเติมสำหรับระบบการเดินทางใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ชุดข้อมูลที่ต้องการจัดเก็บและเปิดเผยต่อสาธารณะ มีดังนี้ ข้อมูลรถ 1. ข้อมูลตำแหน่งรถฯ แบบเรียลไทม์ 2. ข้อมูลเส้นทางของรถฯ ทุกสาย 3. ข้อมูลรถทุกสายที่ผ่านที่หยุดรถฯ 4. ข้อมูลราคาค่าโดยสาร 5. ข้อมูลการเชื่อมต่อกับระบบอื่น 6. ข้อมูลการสิ้นสุดการให้บริการ 7. ระยะเวลาในการเดินทาง 8. ข้อมูลตำแหน่งท่ารถฯ ที่หยุดรถฯ ฯลฯ ข้อมูลวินมอเตอร์ไซค์ 1. ข้อมูลตำแหน่งวินมอเตอร์ไซค์ ข้อมูลจักรยาน 1. ข้อมูลเส้นทางจักรยาน 2. ข้อมูลจุดจอดจักรยาน ข้อมูลระบบรางและระบบเรือ 1. ข้อมูลตำแหน่งสถานี ระบุทุกทางเข้าออกและสิ่งอำนวยความสะดวกของทุกทางเข้าออก 2. ข้อมูลตำแหน่งแบบเรียลไทม์ 3. ข้อมูลเส้นทางให้บริการ 4. ข้อมูลค่าโดยสาร 5. ระยะเวลาในการเดินทาง 6. ข้อมูลการสิ้นสุดการให้บริการ ข้อมูลทางข้าม 1. ข้อมูลทางข้ามระดับดิน 2. ข้อมูลทางข้ามลอยฟ้า

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :ร้อยละของข้อมูลที่มีการเผยแพร่ผ่านระบบ City Data Platform เพื่อให้บริการการเดินทาง ชุดข้อมูล(นำร่อง) 2 ชุดข้อมูล ชุดข้อมูลการเดินเรือ ชุดข้อมูล Shuttle Bus ประสานความร่วมมือขอข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางจากกระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากไม่สามารถดำเนินการได้ กทม.จะร่วมมือกับเอกชนในการพัฒนาระบบเก็บข้อมูลการเดินทาง อาทิ เก็บข้อมูลขนส่งสาธารณะจากกล้อง CCTV และเปิดเผยต่อสาธารณะ ในรูปแบบของ API เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลการเดินทางได้ โดยในเบื้องต้นมีแผนประสานความร่วมมือเชื่อมต่อกับ Google Map โดยครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ และพื้นที่ต่อเนื่อง ทั้งระบบรถ จักรยานยนต์ จักรยาน ราง เรือ ทางข้าม และพร้อมรองรับเพิ่มเติมสำหรับระบบการเดินทางใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ชุดข้อมูลที่ต้องการจัดเก็บและเปิดเผยต่อสาธารณะ

    5.เป้าหมาย :ร้อยละ : 100

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 191 : ทบทวนแผนก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสียรวม และ เชื่อมต่อท่อรวบรวมน้ำเสียที่มีอยู่เดิม 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :กทม.สามารถลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและมลพิษทางน้ำจากการปล่อยน้ำเสีย โดยมีการบำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    3.กทม.จะทำอย่างไร :ต้องมีการทบทวนศึกษาถึงตำแหน่งที่ตั้ง และความเหมาะสมของโครงการ ขนาดความจุหรือประสิทธิภาพการบำบัด เพื่อให้สามารถรองรับการพัฒนาของเมือง ที่อยู่อาศัย ตลอดจนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของ กทม.ในอนาคตได้อย่างยั่งยืน ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสุขภาวะของเมืองและประชาชน นอกจากนี้ต้องมีการเชื่อมต่อการรับน้ำเสียจากครัวเรือนและสถานประกอบการเข้าสู่ระบบให้สมบูรณ์

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :ร้อยละของปริมาณน้ำเสียที่บำบัดจริงเทียบกับปริมาณน้ำเสียที่ออกแบบ

    5.เป้าหมาย :ร้อยละ : 75

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 192 : ทบทวนแผนการก่อสร้างอุโมงค์ยักษ์ ความคุ้มค่าการลงทุน และประสิทธิภาพการแก้ปัญหาน้ำท่วม 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :- การใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจน กทม.มุ่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังและน้ำรอการระบายอย่างยั่งยืนและเป็นระบบ

    3.กทม.จะทำอย่างไร :กทม. และสำนักการระบายน้ำ ต้องมีการประเมินประสิทธิภาพตลอดจนความคุ้มค่าของโครงการอุโมงค์ระบายน้ำที่ดำเนินการอยู่เดิม และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ตลอดจนทบทวนการออกแบบและผลักดันโครงการในอนาคตถึงความเหมาะสมและความสามารถที่จะรับมือเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ ของกทม.

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :

    5.เป้าหมาย :ร้อยละ : 100

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 197 : นำร่องผ้าอนามัยฟรี 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สนศ. // หน่วยงานสนับสนุน สนข.

    2.ประชาชนได้อะไร :-แก้ปัญหาความจนประจำเดือน (Period Poverty) ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและสุขอนามัยของผู้มีประจำเดือน - ลดภาระผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนสังกัด กทม.

    3.กทม.จะทำอย่างไร :อีกทั้งระบบขนส่งมวลชนหลักในกรุงเทพฯ ยังอยู่บนถนนเส้นหลัก เมื่อไม่มีถนนสายรองที่ระบบขนส่งมวลชนรอง หรือ ระบบ feeder จะเดินรถได้ ทำให้ ประชาชนเลือกที่จะใช้รถยนต์มากกว่าขนส่งมวลชนเนื่องจากสะดวกกว่า เพราะระบบไม่สามารถรองรับการเดินทางตั้งแต่ต่อแรก (First Mile) ไปจนต่อสุดท้าย (Last Mile) ได้

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :จำนวนโรงเรียนที่มีการแจกผ้าอนามัย

    5.เป้าหมาย :โรงเรียน : 9

    6.Action Plan :1. มีการสำรวจข้อมูลในการจัดหาผ้าอนามัยฟรีผ่านสำนักงานเขต 2. มีการนำร่องแจกผ้าอนามัยไปแล้ว 20 โรงเรียน คือ เขตบางขุนเทียน 16 โรงเรียน และเขตคลองสามวา 4 โรงเรียน

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 198 : นำร่องสร้างห้องปั๊มนม-ให้นมในสถานที่ของกทม. 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สนอ. // หน่วยงานสนับสนุน ทุกหน่วยงาน

    2.ประชาชนได้อะไร :-เพื่อให้ประชากรเด็กเติบโตอย่างแข็งแรง -ประชาชนมีต้นทุนในการเลี้ยงลูกน้อยลง และรักษาประสิทธิภาพการทำงานควบคู่กับการเลี้ยงลูก -สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับคนที่มีลูกและเด็กอ่อน-เด็กเล็ก

    3.กทม.จะทำอย่างไร :

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :เป้าหมายมีจำนวนจุดให้บริการห้อง/มุมนมแม่ จากส่วนราชการ โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 60

    5.เป้าหมาย :ร้อยละ : 60

    6.Action Plan :1. กิจกรรมส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ 2. คลินิกนมแม่ วชิรพยาบาล (ห้องปั๊มนม ทั้งผู้ป่วยในผู้ป่วยนอก บริการปรึกษาปัญหานมแม่ผ่านแอปพลิเคชั่น)

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 199 : วิชาชีพเลือกเสรีสำหรับนักเรียน 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :- หลักสูตรที่ทันสมัย ช่วยพัฒนานักเรียนให้มีความพร้อมต่อการศึกษาต่อหรือการประกอบอาชีพ รวมถึงการใช้ชีวิตในปัจจุบันและอนาคต - เปิดโอกาสในการเข้าถึงความต้องการของตลาดแรงงานตามสิ่งที่ตนเองถนัดและสนใจ

    3.กทม.จะทำอย่างไร :ผังเมืองรวมกรุงเทพฯ พ.ศ. 2556 จึงได้กำหนดถนนสายรองเพื่อทำให้พื้นที่เมืองลักษณะ superblock ของกรุงเทพฯ หมดไป โดยกำหนดถนนที่ต้องดำเนินการก่อสร้าง 136 สาย เป็นถนนสายรองมากถึง 102 สาย แต่จากการประเมินผลการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนผังแสดงโครงการคมนาคมและขนส่งท้ายกฎกระทรวงให้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพฯ พ.ศ. 2556 ในปี พ.ศ. 2558

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาทั้งหมด 109 โรงเรียน มีการเรียนการสอนด้านทักษะอาชีพ ที่สอดคล้องกับความถนัดและความสนใจของผู้เรียน

    5.เป้าหมาย :โรงเรียน : 109

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 201 : กทม. สร้างแนวทางรับดูแลโครงสร้างพื้นฐาน หมู่บ้านและคอนโดเก่า 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สนย. // หน่วยงานสนับสนุน สนข., สกค.

    2.ประชาชนได้อะไร :- มีการดูแลถนนทุกเส้นให้ได้รับการซ่อมแซม ไฟส่องสว่าง มีการระบายน้ำที่เหมาะสม - ลดปัญหาถนนไม่มีใครรับผิดชอบดูแล

    3.กทม.จะทำอย่างไร :พื้นที่กรุงเทพฯ มีโครงการหมู่บ้านจัดสรรเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาศัยอำนาจการจัดสรร ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 286 (ปว.286) บังคับใช้ในปี พ.ศ. 2515 โดยมีข้อบังคับในการทำโครงการจัดสรรเป็นหลัก แต่ยังไม่มีการบังคับให้จัดตั้งนิติบุคคล และต่อมา เมื่อมีการตราพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 กำหนดให้มีการจัดตั้งนิติบุคคลและการค้ำประกันงานสาธารณูปโภคในพื้นที่โครงการจัดสรร เมื่อมีการจัดตั้งนิติบุคคลทำให้ถนนและสาธารณูปโภคในพื้นที่โครงการจัดสรรอยู่ในความดูแลของนิติบุคคล แต่เมื่อนิติบุคคลนั้นหรือภาคเอกชนผู้พัฒนาโครงการจัดสรรนั้นไม่ได้ดำเนินการแล้วทำให้ถนนหรือสาธารณูปโภคเหล่านั้นไม่ได้รับการดูแล ซึ่งเกิดขึ้นกับโครงการหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ถนนบางเส้นของโครงการจัดสรรยังเป็นถนนกึ่งสาธารณะ คือเป็นถนนที่รถสามารถสัญจรผ่านได้อย่างอิสระเหมือนถนนสาธารณะทั่วไป แต่กรรมสิทธิ์ยังเป็นของนิติบุคคลของหมู่บ้านจัดสรรอยู่ ซึ่งในหลายโครงการจัดสรร นิติบุคคลไม่ได้ดำเนินการแล้ว ทำให้ถนนและสาธารณูปโภคในพื้นที่โครงการจัดสรรเหล่านั้น ไม่ได้รับการดูแลส่งผลกระทบต่อทั้งผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้น โดยพื้นที่ดังต่อไปนี้ กทม. มีอำนาจในการเข้าไปดูแลปรับปรุง (อ้างอิงจาก ข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนทั่วไปใช้สอยร่วมกัน) 1. ทรัพย์สินที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ยินยอมให้ประชาชนเข้าใช้สอยเสมือนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โดยมิได้หวงห้ามหรือสงวนสิทธิ์ในทรัพย์สินติดต่อกันมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี 2. เจ้าของกรรมสิทธิ์ได้แสดงเจตนาเป็นลายลักษณ์อักษรยกให้ กทม. หรือให้เป็นสาธารณสมบัติของ แผ่นดิน 3. เจ้าของยินยอมให้ กทม.ใช้สอย เช่าหรือเจ้าของจดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดินหรือจดทะเบียนภารจํายอม ให้ กทม. 4. ทรัพย์สินของส่วนราชการอื่น ดังนั้นเพื่อพัฒนาพื้นที่เหล่านี้ กทม. จะ 1. สำรวจและรวบรวมรายชื่อ พร้อมทั้งประสานผู้แทนเพื่อรวบรวมปัญหา 2. ดำเนินการเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ การเช่า และการประกาศเพื่อให้สามารถเข้าไปดำเนินการได้ตามกฎหมาย 3. ดำเนินการดูแลปัจจัยพื้นฐานของการอยู่อาศัย เช่น ไฟสว่าง น้ำไหล ถนนสะดวก ระบายน้ำดี ทั้งน้ำท่วมและน้ำเสีย เก็บขยะ ตามความต้องการเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :ตัวชี้วัดปี 2566 แนวทางกรดำเนินการด้านสาธารณูปโภคของหมู่บ้านและคอนโดเก่า (เป้าหมายโครงการ/กิจกรรม 1 แนวทาง) ร้อยละของสาธารณูปโภคในพื้นที่โครงการหมู่บ้านจัดสรร/คอนโดเก่าที่ไม่ได้รับการดูแลได้รับการแก้ไข (เป้าหมายนโยบาย) พัฒนาพื้นที่เหล่านี้ กทม. จะ 1. สำรวจและรวบรวมรายชื่อ พร้อมทั้งประสานผู้แทนเพื่อรวบรวมปัญหา 2. ดำเนินการเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ การเช่า และการประกาศเพื่อให้สามารถเข้าไปดำเนินการได้ตามกฎหมาย 3. ดำเนินการดูแลปัจจัยพื้นฐานของการอยู่อาศัย เช่น ไฟสว่าง น้ำไหล ถนนสะดวก ระบายน้ำดี ทั้งน้ำท่วมและน้ำเสีย เก็บขยะ ตามความต้องการเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน

    5.เป้าหมาย :แนวทางดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐาน : 1

    6.Action Plan :เป็นภารกิจของสำนักงานเขต ตามแนวทางหนังสือสั่งการของปลัดกรุงเทพมหานคร ที่ กท 0405/350 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2563

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 205 : เพิ่มเงินสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการชุมชนและปรับการให้เป็นรายปี 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : สพส. // หน่วยงานสนับสนุน สนข.

    2.ประชาชนได้อะไร :1. ได้โครงการการพัฒนาชุมชนที่ขนาดใหญ่ขึ้นสร้างการพัฒนาชุมชนได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    3.กทม.จะทำอย่างไร :ปัจจุบันหากอ้างอิงจากระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสนับสนุนการพัฒนาชุมชนกำหนดให้มีค่าสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการชุมชนที่ 5,000 7,500 และ 10,000 ต่อเดือน[1]ขึ้นกับขนาดของชุมชน ซึ่งการให้เงินสนับสนุนในลักษณะนี้ในบางครั้งพบปัญหาเกี่ยวกับประมาณเงินต่อเดือนที่ต่ำส่งผลให้ไม่สามารถเขียนโครงการที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับชุมชนได้ ในบางครั้งต้องเป็นเพียงโครงการแจกอาหารให้กับชุมชนเท่านั้น ดังนั้นเพื่อส่งเสริมการกระจายอำนาจให้กับชุมชนในการพัฒนาโครงการในขนาดที่ใหญ่ขึ้น กทม. จะปรับรูปแบบการให้เงินจากรายเดือนเป็นรายปีพร้อมกับเพิ่มเงินสนับสนุนโดยแต่ละชุมชนจะสามารถเขียนโครงการเพื่อรับเงินสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการชุมชนที่ 100,000 150,000 และ 200,000 ต่อปีขึ้นกับขนาดของชุมชน

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :ไม่ได้รับงบประมาณ (9,796,000 บาท) 206,1400 ตลาด กทม.ออนไลน์ พ่อค้าแม่ขายได้ขยายกลุ่มลูกค้า - วินจักรยานยนต์รับจ้างมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการส่งสินค้าในตลาด - ลดการแออัดของตลาดและปัญหาการจราจรโดยรอบตลาด

    5.เป้าหมาย :เขต : 50

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :

  • 208 : เด็ก กทม. เล่นน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น 0 0 0 0 0

    ยังไม่รายงาน : 0 โครงการ กำลังดำเนินการ : 0 โครงการ แล้วเสร็จ : 0 โครงการ ยกเลิก : 0 โครงการ ชะลอ : 0 โครงการ
    1.หน่วยงานหลัก : // หน่วยงานสนับสนุน

    2.ประชาชนได้อะไร :- ลดสถิติการเสียชีวิตจากการจมน้ำของเด็กลง

    3.กทม.จะทำอย่างไร :- จัดให้วิชาว่ายน้ำเป็นหลักสูตรพื้นฐานของโรงเรียนสังกัด กทม.ทุกโรงเรียน หากโรงเรียนไม่มีสระว่ายน้ำให้ใช้สระและครูของศูนย์กีฬาหรือศูนย์สร้างสุขทุกข์วัย - เพิ่มสระว่ายน้ำในศูนย์สร้างสุขทุกวัยใหม่ให้สระว่ายน้ำและการสอนว่ายน้ำของ กทม.กระจายตัวทั่วกรุง

    4.ตัวชี้วัด (KPI) :เด็กกทม. ตั้งแต่ป.1 จนถึงม. 6 ได้เข้าเรียน ครบทั้ง 437 โรงเรียน และผ่านการทดสอบ

    5.เป้าหมาย :โรงเรียน : 437

    6.Action Plan :

    7.โครงการ/กิจกรรม :