หลักการและเหตุผล

คนพิการ ถือเป็นกลุ่มผู้ด้อยโอกาส และเป็นกลุ่มเปราะบางทางสังคม และมีความจําเป็นพิเศษที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือ เพื่อให้สามารถปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวัน หรือเข้าไปมีส่วนร่วมทางสังคมได้อย่างบุคคลทั่วไป ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 กำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐรับคนพิการเข้าทำงาน เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้คนพิการได้มีส่วนร่วมในสังคม มีโอกาสในการเข้าถึงการประกอบอาชีพ ได้ใช้ศักยภาพของตนเอง และสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยมาตราที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน คนพิการ ได้แก่ มาตรา 33 ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐรับคนพิการเข้าทำงาน อัตราส่วนลูกจ้างที่มิใช่คนพิการทุกหนึ่งร้อยคนต่อคนพิการหนึ่งคน เศษของหนึ่งร้อยคนถ้าเกินห้าสิบคนต้องรับคนพิการเพิ่มอีกหนึ่งคน (อัตราส่วน 100 : 1) มาตรา 35 ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐไม่ประสงค์จะรับคนพิการเข้าทำงานตามมาตรา 33 หรือนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการไม่รับคนพิการเข้าทำงานตามมาตรา 33 และไม่ประสงค์จะส่งเงินเข้ากองทุนฯ ตามมาตรา 34 หน่วยงานของรัฐนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการนั้นอาจให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาช่วงงานหรือจ้างเหมาบริการโดยวิธีกรณีพิเศษ ฝึกงาน หรือจัดให้มีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ล่ามภาษามือ หรือให้ความช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการก็ได้ การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับการจ้างงานของคนพิการเป็นอย่างมาก สถานประกอบการหลายแห่งต้องปรับลดจำนวนพนักงานลงหรือยิ่งไปกว่านั้นคือต้องเลิกประกอบกิจการ จึงทำให้อัตราส่วนการจ้างงานคนพิการลดลงตามไปด้วย จากการสำรวจขององค์กรคนพิการพบว่าตำแหน่งงานของคนพิการหายไปประมาณ 15 - 20% จากที่เคยมีงานทำแล้วกลับมาตกงานจะได้รับผลกระทบอย่างมาก จากเหตุผลดังกล่าวผู้บริหารกรุงเทพมหานครจึงได้ให้ความสำคัญต่อการจ้างงานคนพิการ เพราะมองว่าคนพิการเป็นกลุ่มประชากรที่เปราะบาง จำเป็นต้องได้รับการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิต จึงมีนโยบายให้ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตดุสิตจึงได้จัดทำโครงการจ้างงานคนพิการเพื่อปฏิบัติงานในสำนักงานเขต เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนพิการมีงานทำ มีรายได้ สิ่งสำคัญที่สุดนอกเหนือจากเรื่องของเงินเดือนหรือรายได้แล้ว คนพิการที่ได้ทำงานจะมีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นที่พึ่งพิงให้กับครอบครัว และรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างเช่นบุคคลทั่วไป และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

50291000/50291000

วัตถุประสงค์ของโครงการ

2.1 เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 มาตรา 33 และ 35 2.2 เพื่อให้คนพิการมีอาชีพ มีงานทำ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถพึ่งพาตนเองได้ทัดเทียมคนทั่วไป เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่เป็นภาระของครอบครัว 2.3 เพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานตัวอย่างของภาครัฐในการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ

เป้าหมายของโครงการ

จ้างคนพิการเพื่อเป็นอาสาสมัครปฏิบัติงานในสำนักงานเขตสาทร จำนวน 3 คน ขอบเขตของตำแหน่งงานให้เป็นไปตามบทบาท ภารกิจ และอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเขต โดยกำหนดตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับความสามารถ และประเภทของความพิการ อัตราค่าจ้างให้เป็นไปตามคุณวุฒิการศึกษา ได้แก่ วุฒิปริญญาตรี หรือวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือวุฒิมัธยมศึกษาตอนต้น หรือวุฒิประถมศึกษา หรือไม่มีวุฒิการศึกษา

สนับสนุนยุทธศาสตร์กรุงเทพมหานครฯ

ผลการดำเนินงาน

(1) ความคืบหน้าโครงการฯ ร้อยละ 100.00 (2023-09-20)

20/09/2566 : เบิกจ่ายค่าตอบแทนเดือนสิงหาคม จำนวน 77,869 บาท ค่าประกันสังคม จำนวน 3,893 บาท เบิกจ่ายค่าตอบแทนเดือนกันยายน จำนวน 84,178 บาท ค่าประกันสังคม จำนวน 4,209 บาท

** ปัญหาของโครงการ :ไม่มี

** อุปสรรคของโครงการ :ไม่มี

------------------&&&--------------------

(2) ความคืบหน้าโครงการฯ ร้อยละ 93.00 (2023-08-21)

21/08/2566 : เบิกจ่ายค่าตอบแทนเดือนกรกฎาคม จำนวน 83,472 บาท ค่าประกันสังคม จำนวน 4,174 บาท

** ปัญหาของโครงการ :ไม่มี

** อุปสรรคของโครงการ :ไม่มี

------------------&&&--------------------

(3) ความคืบหน้าโครงการฯ ร้อยละ 90.00 (2023-07-24)

24/07/2566 : เบิกจ่ายค่าตอบแทนเดือนมิถุนายน จำนวน 82,766 บาท ค่าประกันสังคม จำนวน 4,138 บาท

** ปัญหาของโครงการ :ไม่มี

** อุปสรรคของโครงการ :ไม่มี

------------------&&&--------------------

(4) ความคืบหน้าโครงการฯ ร้อยละ 80.00 (2023-06-21)

21/06/2566 : เบิกจ่ายค่าตอบแทนเดือนพฤษภาคม จำนวน 55,500 บาท ค่าประกันสังคม จำนวน 2,775 บาท

** ปัญหาของโครงการ :ไม่มี

** อุปสรรคของโครงการ :ไม่มี

------------------&&&--------------------

(5) ความคืบหน้าโครงการฯ ร้อยละ 70.00 (2023-05-25)

25/05/2566 : เบิกจ่ายค่าตอบแทนเดือนเมษายน จำนวน 52,499 บาท ค่าประกันสังคม จำนวน 2,625 บาท

** ปัญหาของโครงการ :ไม่มี

** อุปสรรคของโครงการ :ไม่มี

------------------&&&--------------------

(6) ความคืบหน้าโครงการฯ ร้อยละ 65.00 (2023-04-20)

20/04/2566 : เบิกจ่ายค่าตอบแทนเดือนมีนาคม จำนวน 68,181 บาท ค่าประกันสังคม จำนวน 3,409 บาท

** ปัญหาของโครงการ :ไม่มี

** อุปสรรคของโครงการ :ไม่มี

------------------&&&--------------------

(7) ความคืบหน้าโครงการฯ ร้อยละ 60.00 (2023-03-21)

21/03/2566 : เบิกจ่ายค่าตอบแทนเดือนกุมภาพันธ์ จำนวน 65,250 บาท ค่าประกันสังคม จำนวน 3,533 บาท

** ปัญหาของโครงการ :ไม่มี

** อุปสรรคของโครงการ :ไม่มี

------------------&&&--------------------

(8) ความคืบหน้าโครงการฯ ร้อยละ 50.00 (2023-03-01)

01/03/2566 : เบิกจ่ายค่าตอบแทนเดือนมกราคม จำนวน 45,000 บาท ค่าประกันสังคม จำนวน 2,250 บาท

** ปัญหาของโครงการ :ไม่มี

** อุปสรรคของโครงการ :ไม่มี

------------------&&&--------------------

(9) ความคืบหน้าโครงการฯ ร้อยละ 40.00 (2023-01-25)

25/01/2566 : เบิกจ่ายค่าตอบแทนเดือนตุลาคม จำนวน 45,000 บาท ค่าประกันสังคม จำนวน 1,350 บาท เบิกจ่ายค่าตอบแทนเดือนพฤศจิกายน จำนวน 45,000 บาท ค่าประกันสังคม จำนวน 1,350 บาท เบิกจ่ายค่าตอบแทนเดือนธันวาคม จำนวน 42,632 บาท ค่าประกันสังคม จำนวน 1,279 บาท

** ปัญหาของโครงการ :ไม่มี

** อุปสรรคของโครงการ :ไม่มี

------------------&&&--------------------

แผนการดำเนินงานฯ

สนับสนุนตัวชี้วัดตามแผนฯ

** ผลการประเมินโครงการ (รายไตรมาส) **